ชีวิตที่ปลอดโล่ง โล่งอกที่สุดคือชีวิตที่ไม่มีแรงกดดัน หรือบีบคั้นบังคับให้ต้องทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือหลายสิ่งๆ
ไม่ว่าจะเป็นการทำเพื่อให้ได้มาหรือรักษาอะไรต่ออะไรที่เรารู้สึกว่ามีคุณค่าต่อชีวิต ไม่อยากให้สูญเสียไป หรือทำเพื่อให้ไม่ให้ต้องประสบพบเจอหรือหลีกหนีจากเรื่องราวที่เราไม่ต้องการ และอยากให้พ้นได้จากชีวิต
ในภาพรวมก็คือ ให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งลาภ ยศ สรรเสริญ หรือหลีกหนี หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้การไม่มีโอกาสหรือความเสื่อมในลาภ ยศ สรรเสริญ
ชีวิตที่ดำเนินไปด้วยความอยากเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดแรงกดดัน และบีบคั้นให้ต้องทำให้ได้มา หรือหลบเลี่ยงสำเร็จ
นี่คือชีวิตที่ไม่ปลอดโล่ง โปร่งสบาย เพราะต้องอยู่ด้วยแรงบีบคั้นกดดันอย่างที่ว่า
ทว่าในความเป็นจริง ชีวิตที่ไม่อยู่ด้วยแรงกดดัน หรือบีบคั้นนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในคนส่วนใหญ่
เพราะเพียงแค่เกิดมา และมีชีวิตอยู่ แรงกดดันและบีบคั้นย่อมเกิดขึ้นและมีอยู่แล้ว
พื้นฐานที่สุดคือ แรงบีบคั้น และกดดันให้ต้องแสวงหาปัจจัย 4 มาเอื้ออำนวยกับชีวิต อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค จะต้องมีต้องใช้
ในค่านิยมที่ขยายปัจจัย 4 ไปให้มีขอบเขตครอบคลุมกว้างขึ้นกว่าความเป็นพื้นฐาน
เป็นอาหารที่ไม่เพียงกินเพื่อสนองความต้องการที่จะนำสารอาหารต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ในการเสริมร่างกายให้แข็งแรง สมบูรณ์ หรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไปเป็นการกินเพื่อสุดยอดความอร่อย เพื่ออวดความหรูหรา หรือพิสดารพันลึกให้คนอื่นได้อิจฉา กินเพื่อเติมความบันเทิงเริงรมย์ หรือกล่อมประสาท สติให้มึนเมาล่องลอยในความสุขจากมายาได้เต็มที่
เป็นเครื่องนุ่งห่มที่มากกว่ากันลม กันหนาว กันแดด
เป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าที่พักผ่อน นอนหลับ
เป็นยาที่มากไปกว่าแค่การรักษาโรค
ในปัจจัยในระดับพื้นฐานที่สุดของชีวิตก็มีแรงกดดัน บีบคั้นอยู่แล้ว ยามเมื่อขยายให้ครอบคลุมความต้องการมากขึ้น แรงกดดันหรือบีบคั้นยิ่งเพิ่มขึ้น
ไม่เพียงแสวงหาเพื่อชีวิตตัวเอง แต่ยังต้องจัดการทำให้เพื่อขยายการดูแลให้คนที่รัก หรือทายาทไปอีกหลายรุ่น หลายชั่วคน ยิ่งเพิ่มภาระที่เป็นแรงกดดันนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อภาระตามสัญชาตญาณของมนุษย์หรือสลายแรงบีบคั้น กดดัน เพื่อเปิดทางให้ชีวิตดำเนินสู่ความเป็นอิสระ การหาทางที่จะพ้นจากแรงกดดันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติของมนุษย์
หนทางหนึ่ง เป็นวิธีคิดแบบหาทางทำลายแรงกดดัน หรือบีบคั้นนั้นเสีย เมื่อไม่มีปัจจัยที่มาสร้างแรงบีบคั้น กดดัน ก็ไม่มีภาระที่จะต้องทำเพื่อลดแรงกดดันนั้นๆ
อีกหนทางหนึ่งคือ หาทางสร้างสรรค์ให้เกิดระบบที่จะมาจัดการสลายแรงบีบคั้นกดดันนั้น
เมื่อมีระบบที่เข้มแข็ง และมีประสิทธิภาพ ความกังวลอันเกิดจากการต้องอยู่กับแรงบีบคั้น กดดันก็หมดไป
เป็นการอยู่กับแรงบีบคั้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกกดดัน เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าจะมีระบบเข้ามาจัดการให้ไม่ต้องเป็นภาระ
เป็นระบบการบริหารจัดการที่มนุษย์คิดขึ้นมา
หรือบางครั้งเป็นเรื่องราวของการบรรลุถึงสัจธรรมบางอย่าง อันเป็นกลไกธรรมชาติ
เรื่องราวหนึ่งเกิดขึ้น เป็นอยู่ เพราะมีสิ่งต่างๆ มาประกอบกันให้เป็นเช่นนั้น
เมื่อปัจจัยที่มาประกอบเปลี่ยนแปลงไป สิ่งนั้นก็เปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย
ความอยากที่จะให้สิ่งที่เป็นอย่างนั้น โดยขัดกับธรรมชาติอันเกิดจากผลของการประกอบกันขึ้นของปัจจัยแบบต่างๆ ย่อมเป็นความอยากที่เป็นจริงไม่ได้
แรงบีบคั้น กดดัน อันเกิดจากความอยากโดยมองไม่เห็นธรรมชาติการประกอบกันของเหตุปัจจัย เป็นที่มาของความหงุดหงิดรำคาญใจ
ความคิดที่น้อมให้เข้าใจกลไกธรรมชาติของสิ่งต่างๆ คือระบบอย่างหนึ่งที่ทำให้ใจพ้นไปจากแรงกดดัน บีบคั้นได้
ถ้าไปถึง ชีวิตจะเป็นอิสระ
The post จิตที่คลายจาก”แรงบีบคั้น” appeared first on มติชนออนไลน์.