ห้วงครึ่งทศวรรษมานี้ในโลกตะวันตกมีการพูดถึงคนยุคมิลเลนเนียลที่มีปัญหาด้านเศรษฐกิจ และการใช้ชีวิต เช่น ในสหรัฐ งานสำรวจของ Pew Research Center ระบุว่า หนุ่มสาวอเมริกันวัย 18-24 ปี ยังอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 1940 เป็นต้นมา ปกติโดยมากคัลเจอร์ของสังคมอเมริกันลูกๆ จะออกไปใช้ชีวิต “ข้างนอก” แต่ 2-3 ปี มานี้ มีสถิติว่าลูกๆ หันทิศกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่ บ้านเราอาจจะรู้สึกว่าไม่แปลก แต่ในโลกตะวันตกมองว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องต้องสังเกต หนึ่งในคำตอบบอกว่าคนรุ่นใหม่ไปไหนไม่ได้ เพราะไม่อาจรับมือกับสภาพเศรษฐกิจใหม่ไหว เงินเดือนไม่พอเก็บไว้ซื้อบ้านได้เหมือนคนรุ่นก่อน ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ไปที่พ่อแม่ไม่ได้เตรียมตัวลูกอย่างเพียงพอสำหรับความรับผิดชอบในการโตเป็นผู้ใหญ่ แปลว่า “เอาตัวไม่รอด”? แม้จะฟังดูตีขลุมเหมารวม… กระนั้นในสหรัฐมีประชากรคนรุ่นใหม่ที่ถูกให้คำจำกัดความว่าอยู่ในยุคมิลเลนเนียล ซึ่งเกิดตั้งแต่ปี ค.ศ.1980-2000 จำนวนราว 80 ล้านคน บางคนยังโสด บางคนมีครอบครัว และมีลูกแล้ว แต่ก็ยังใช้ชีวิตไม่ค่อยมั่นคงทางเศรษฐกิจนัก มีการประเมินไปในทางเดียวกันว่าคนรุ่นใหม่ยุคนี้ไม่สามารถดำรงชีพในภาวะเศรษฐกิจใหม่นี้ได้เท่ารุ่นพ่อแม่ แล้วจะมีอะไรช่วยพวกเขาได้ มีหนึ่งแนวคิดที่ทำให้เกิดโรงเรียนแห่งหนึ่งขึ้นมา ด้วยการขายม็อตโต้ที่ว่า “มาที่นี่สิ แทนที่จะเรียกหาพ่อแม่พวกเธอน่ะ” ฟังดูเก๋คูลซะไม่มี…ว่าแต่โรงเรียนนี้สอนอะไรบ้าง… โรงเรียนนี้ชื่อ Adulting School […]
The post คอลัมน์ แปดหมื่นหกพันก้าว : ชีวิต(ยุคนี้)อยู่ยาก? appeared first on มติชนออนไลน์.