การสัมผัสสัมพันธ์กับโลกของสรรพสัตว์มี 2 วิถีคือ สละของเราออกไป กับเก็บมาเป็นของเรา ทั้ง 2 วิถีเกิดขึ้นเป็นปกติ ไม่มีใครสละอย่างเดียว ไม่มีใครรับอย่างเดียว ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตต่างเป็น “ผู้ให้” และ “ผู้รับ” ของกันและกัน ถ้าจิตตั้งอยู่ในความเป็นปกตินี้ สำนึกรู้ว่า “ให้” หรือ “รับ” เป็นธรรมดาของเหตุที่ก่อผล ชีวิตจะดำเนินไปตามธรรม แต่ชีวิตสัตว์โลก โดยเฉพาะมนุษย์มักไม่เป็นอย่างนั้น เพราะแทนที่จะปล่อย “การให้” และ “การรับ” เป็นไปตามปกติแห่งเหตุปัจจัยที่มาประกอบกัน และมองเห็นความปกตินั้น กลับกลายเป็นมาส่วนใหญ่จะเติมความคาดหวังเข้ามา และเป็นธรรมดาของ “ความคาดหวัง” ที่ “หวังจะได้ หวังจะรับ” มากกว่า “หวังจะให้” แต่เหมือนกับมนุษย์เรานั้นมี “สามัญสำนึก” ที่เข้าถึงความรู้ในความธรรมดาของโลก “ให้” ดีกว่า “รับ” “ผู้ให้” จะได้รับผลภายภาคหน้าในทางปลอดโปร่งโล่งใจว่า “ผู้รับ” ผู้ให้จะเป็นผู้ที่ไม่รู้สึกติดค้าง หรือเป็นหนี้บุญคุณใคร ไม่รู้สึกถึงภาระที่จะต้องชดใช้ นั่นหมายถึงชีวิตดำเนินในวิถีที่เป็นอิสระไม่ถูกผูกมัดด้วยภาระใดๆ มากกว่า ดังนั้น ปราชญ์ทั้งหลายจึงบอกกล่าวชี้ทางให้แก่คนรุ่นหลังๆ ตลอดมาในทำนอง […]
The post คอลัมน์ เริงโลกด้วยจิตรื่น : จิตของผู้ให้ appeared first on มติชนออนไลน์.