พลังงานทดแทน นอกจากจะเป็นเส้นทางที่กระแสโลกกำลังมุ่งไป เพื่อทดแทนเรื่องพลังงานจากน้ำมันดิบและก๊าชธรรมชาติที่จะหมดโลกแล้ว ยังเป็นตัวช่วยหนึ่งที่สามารถตอบโจทย์สำหรับพื้นที่ที่ห่างไกล
ดังเช่นพื้นที่ซึ่งมีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปชมอย่างเช่น เกาะพยาม ต.เกาะพยาม จ.ระนอง ซึ่งห่างจากฝั่งถึง 30 กิโลเมตร และไม่อยู่ในเขตพื้นที่บริการของไฟฟ้า
จึงนำมาสู่การคิดค้นพลังงานทดแทนเข้ามาผลิตกระแสไฟฟ้าใช้บนเกาะ
โรงเรียนบ้านเกาะพยามใช้ไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์จากแสงของดวงอาทิตย์ โดยมีการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จากการใช้งานเป็นระยะเวลานานจึงทำให้อุปกรณ์ต่างๆ เสื่อมสภาพและชำรุด ประกอบกับความต้องการการใช้ไฟฟ้าของนักเรียนและครู พร้อมทั้งศักยภาพลมที่พัดผ่านตลอดปี จึงก่อให้เกิดแนวคิดในการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าขึ้น เพื่อนำมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าของโรงเรียน และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานทดแทนได้อีกทางหนึ่ง
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ได้เห็นความสำคัญของพลังงานทดแทนในทุกระดับทั้งระดับชุมชน และระดับประเทศรวมถึงพื้นที่ห่างไกลและอีกทางหนึ่งพื้นที่ที่กองทุนฯได้เข้าไปส่งเสริมพลังงานทดแทนคือ เกาะพยาม จ.ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีไฟฟ้าใช้ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และโรงเรียนเกาะพยามก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้าใช้ ดังนั้น กองทุนจึงได้ร่วมมือกับพลังงานจังหวัดระนองเข้าไปสำรวจ
“พบว่าตัวเกาะตั้งอยู่ห่างไกลจากฝั่งประมาณ 30 กิโลเมตร จึงได้รับอิทธิพลลมทะเลฝั่งอันดามันพัดผ่านตลอดทั้งปี จากการวัดแรงลมในพื้นที่ปี พ.ศ.2557 พบว่ามีค่าความเร็วลมประมาณ 2.7เมตรต่อนาที และข้อมูลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ระบุความเร็วลมเฉลี่ยบนเกาะพยามในปี พ.ศ.2553 ที่ประมาณ 3.0 เมตรต่อวินาที จึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนโดยเฉพาะพลังงานจากลม” ดร.ทวารัฐกล่าว

เกาะพยามกำลังเป็นที่ที่มีชื่อเสียงและมีคนนิยมมาเที่ยว ซึ่งก็พบว่าใน 2-3 ปีการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น จึงมีการช่วยเสริมระบบเดิมคือพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่มีอยู่แล้วเลยเอาพลังงานลมเข้ามาผสมผสาน และพยายามสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน
“เกาะพยามก็เป็นพื้นที่ให้เปล่า 100 เปอร์เซ็นต์ วันนี้เราเข้ามาเสริมระบบเพื่อให้เป็นตัวอย่าง และเป็นความตั้งใจจะให้เกาะอื่นๆ มีแบบนี้ด้วยซึ่งก็มีคนที่ยังอยู่อีกหลายเกาะเป็นเขตนอกพื้นที่บริการของการไฟฟ้า ก็เลยหาโมเดลต้นแบบที่เป็นระบบผสมผสานตอบโจทย์พื้นที่ได้ หมายความว่าเกาะนั้นเป็นเกาะชุมชนก็ตอบโจทย์อย่างหนึ่งเช่น ปริมาณไฟฟ้าอาจจะไม่ต้องมีเยอะ ส่วนเกาะที่เป็นท่องเที่ยวก็จะตอบโจทย์อีกอย่างหนึ่งเช่น จะต้องมีไฟฟ้าพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อความสะดวกสบายมีไฟฟ้าใช้ตลอด
“เป้าหมายสูงสุดของพลังงานทดแทนก็คือเข้ามาเป็นหนึ่งในพลังงานกระแสหลักของประเทศได้เป้าหมายที่สองคือให้ชุมชนในประเทศไทยมีไฟใช้ 100 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันมี 99 เปอร์เซ็นต์ แต่เหลืออีก 1 เปอร์เซ็นต์ก็คือตามเกาะแล้วก็ยอดดอยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เพราะฉะนั้นกระทรวงพลังงานก็ต้องการหาโมเดลรูปแบบประชารัฐ รัฐบาลกับประชาชนประสมกันเพื่อตอบโจทย์พื้นที่ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้” ดร.ทวารัฐกล่าว และว่า หัวใจสำคัญก็คือรัฐลงทุนให้ได้ แต่ชุมชนก็ต้องให้ความร่วมมือให้การดูแลบำรุงรักษา ต้องจ่ายค่าไฟร่วมทุนในการที่จะดูแลระบบนั้น เพราะหลายกรณีรัฐบำรุงให้เสร็จแต่ก็จบอยู่แค่นั้น รักษาไม่เป็นทำอะไรไม่ได้ก็กลายเป็นอนุสาวรีย์

โครงการส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทนในระดับชุมชน ณ โรงเรียนบ้านเกาะพยาม ต.เกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง สนับสนุนงบประมาณในการติดตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาด 1 กิโลวัตต์ จำนวน 5 ชุด รวมกำลังผลิต 5,000 วัตต์ ชนิดไม่เชื่อต่อสายส่ง (stand alone) โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกเก็บในแบตเตอรี่ขนาด 130 แอมป์ต่อชั่วโมง จำนวน 8 ลูก เชื่อมต่อระบบอินเวอร์เตอร์เพื่อแปลงไฟฟ้าเป็นกระแสตรงเป็นกระแสสลับสำหรับนำมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบแสงสว่างของอาคารเรียนและห้องพักครูของโรงเรียนเกาะพยาม
ระบบดังกล่าวสามารถผลิตไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 3,300 หน่วยต่อปี เมื่อนำไฟฟ้าที่ได้จากกังหันลมยังเชื่อมต่อกับระบบไฟกับพลังงานทดแทนจากเซลล์แสงอาทิตย์ ที่ใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 โดยติดตั้ง 2 จุด กำลังการผลิต 2,100 วัตต์และ 3,000 วัตต์ ซึ่งเพียงพอต้องความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงเรียนโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องปั่นไฟฟ้าจากเครื่องยนต์
อำภา แก้วยาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะพยาม จ.ระนอง กล่าวว่า โรงเรียนบ้านเกาะพยามเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 91 คน มีครูและบุคลากรอื่นๆ รวม 6 คน ด้วยพื้นที่ตั้งเป็นเกาะทำให้ไม่ได้อยู่ในเขตบริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำให้ขาดโอกาสในการเข้าถึงสื่อการเรียนการสอนที่ต้องใช้ไฟฟ้าเช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ดังนั้นจากการที่ทางกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการดังกล่าวส่งผลให้โรงเรียนเกาะพยามมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน 100 เปอร์เซ็นต์
“ประโยชน์ที่ได้จากส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทนในระดับชุมชนนอกจากกระแสไฟฟ้ายังเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตและโอกาสที่ดีขึ้นให้กับชุมชนแม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลเพิ่มองค์ความรู้ด้านพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืนให้ครู นักเรียน และประชาชนทั้งในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย” อำภากล่าว
“เกาะพยาม” จ.ระนอง จะเป็นต้นแบบสำหรับเกาะแก่งและแหล่งที่อยู่นอกเขตบริการพื้นที่ไฟฟ้า ที่ทุกคนสามารถมาเรียนรู้ได้
The post ต้นแบบพลังงานทดแทนชุมชน ณ ‘เกาะพยาม’ เมื่อแสงอาทิตย์ผนึกกำลังลม appeared first on มติชนออนไลน์.