Quantcast
Channel: ประชาชื่น –มติชนออนไลน์
Viewing all articles
Browse latest Browse all 6405

ฝ่ากระแสและมรสุม’ทีวีดิจิตอล’เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ‘คอนเทนต์ คือ หัวใจสำคัญ’

$
0
0

วันนี้ของวงการทีวีดิจิตอลไทยเป็นอย่างไรหลังการแห่ประมูลกันล้นหลาม อาจจะพอเห็นรูปธรรมอย่างหนึ่งของธุรกิจนี้กันบ้างแล้ว

ปรากฏฝ่ายชนะ ฝ่ายสูญเสีย สูญหาย พ่ายแพ้ โบกมือลาอย่างที่เราได้รู้กันบนหน้าสื่อ

หนึ่งในผู้แข่งขันที่ร่วมประมูลในครั้งนั้น ที่แม้จะเป็นบริษัทค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย หากแต่ว่าก็ไม่ได้กระโจนไปแบบสุดตัวในสมรภูมิทีวีดิจิตอล เหมือนจะหยั่งรู้อนาคตอะไรบางอย่าง

กลยุทธ์ที่บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ภายใต้การนำของ “เฮียฮ้อ” – สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ถึงวันนี้ผ่านมาแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ทีวีดิจิตอล “ช่อง 8” เพียงหนึ่งเดียว และธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทเป็นอย่างไร “เฮียฮ้อ” เปิดใจเล่าให้ฟัง

“ทีวีช่อง 8 เรากำหนดให้เป็น mass เพราะฉะนั้นช่อง 8 จึงจำเป็นที่จะต้องมีคอนเทนต์หลากหลาย และแต่ละคอนเทนต์ต้องมีกลุ่มคนดูที่ชัดเจน และต้องประสบความสำเร็จ” คือน้ำเสียงที่ดัง ฟังชัดของเบอร์ 1 “อาร์เอส” ที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น ผ่านแววตาที่เอาจริงเอาจัง

และนี่คือบทสนทนาของคนใน ที่จะถ่ายทอดสู่สายตาผู้อ่าน

ผ่านประสบการณ์และไอเดียของ “เฮียฮ้อ” ผู้ประกาศทุ่ม 2 พันล้านในปีนี้ เพื่อแย่งสายตาของผู้ชม ไม่ให้เลื่อนนิ้วกดหนีไปไหน

มองธุรกิจทีวีดิจิตอลที่ผ่านมาอย่างไร?

เรื่องประมูลมันแล้วแต่แผนธุรกิจ เมื่อมองย้อนไปจะเห็นว่าอาร์เอสเป็นรายเดียว ที่มีความชัดเจนมากที่เราต้องการเพียงช่องเดียว และก็เป็นแบบ SD หรือที่เรียกว่าช่อง Standard บางช่องเขาก็มีแผนของเขาคือต้องการหลายช่อง บางรายฝันอยากจะได้แบบ HD แล้วประมูลไม่ได้ แต่สำหรับอาร์เอสไม่ใช่ เพราะเราเชื่อว่าการทำทีวีมากช่องไม่ได้มีประโยชน์ เพราะฉะนั้น คุณมีช่องเดียวแล้วทำให้มันดี ประสบความสำเร็จก็เพียงพอแล้ว อย่างที่สองคือการเป็น HD ในช่วงเริ่มต้นเลย ดูเป็นการแบกต้นทุนที่ไม่เกิดประโยชน์ในการสร้างธุรกิจ เพราะฉะนั้น ทางอาร์เอสตั้งใจไว้แต่แรกเลยว่าต้องการแค่ Standard เราเชื่อว่าความเป็น HD วันนี้ยังไม่เป็นประโยชน์ในการแข่งขัน ฟรีทีวีวัดกันที่จำนวนสายตาผู้คนไม่ใช่ความคมชัดในเชิงเทคนิค (ยิ้ม) ผ่านมาถึงวันนี้มันก็พิสูจน์แล้วว่า คนที่เข้าไปประมูลมากกว่าหนึ่งช่อง คือคนที่กำลังมีปัญหา เพราะคุณแบกต้นทุนมากเกินไป คนที่ประมูลด้วย HD คุณกำลังมีปัญหา แบกต้นทุนที่ไม่จำเป็นต่อธุรกิจ ไม่คุ้มค่า เราเห็นผู้ประกอบการหลายๆ รายออกมาร้องกันแล้ว

“คอนเทนต์” คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจสื่อทีวีดิจิตอล หัวใจมันคือการที่มีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และตลอดชีวิตมันก็จะเป็นอย่างนั้น เพราะมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วทั่วโลก

ธุรกิจของ “อาร์เอส” ในปีที่ผ่านมา?

น่าจะปิดด้วยตัวเลขรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่เราวางไว้ แต่ผลประกอบการของอาร์เอสในปี 2558 ยังเป็นบวกอยู่ และผลลัพธ์ในเชิง Performance ของช่อง 8 จากการทำงานทั้งปีได้ตามเป้าหมายตามที่เราตั้งไว้ เมื่อต้นปี 2558 ช่อง 8 มีเรตติ้งประมาณ 160,000 คนต่อนาที จบปี 2558 ประมาณ 350,000 คนต่อนาที ก็ถือว่าโตเกือบเท่าตัว

ภาพรวมธุรกิจของ “อาร์เอส” วันนี้?

ช่อง 8 เป็นธุรกิจที่สำคัญที่สุดของอาร์เอสในช่วงนี้ เราแบ่งธุรกิจเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มมีเดีย ที่เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดมีสัดส่วน 60-70% ของอาร์เอส มีเดียก็จะประกอบไปด้วยช่อง 8, 2, สบายดีทีวี, ยูแชนแนล และก็วิทยุก็จะมีคลื่น Cool 93 เพราะฉะนั้นก็จะเห็นว่าช่อง 8 เป็นช่องที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในกลุ่มสื่อ ที่เหลือก็จะเป็นกลุ่มคอนเทนต์ ก็จะเป็นธุรกิจเพลง ธุรกิจโชว์บิซ และธุรกิจกิจกรรมต่างๆ

ภาพของอาร์เอสวันนี้ น้ำหนักอยู่ที่มีเดีย เพราะเป็นหัวใจสำคัญหลัก และช่อง 8 ก็จะมีบทบาท มีความสำคัญที่สุด เราโฟกัสตัวธุรกิจของช่อง 8 มากที่สุด โดยมีแผน 3 ปี ในการสร้างช่อง ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 เป็นช่วงที่ทำงานหนัก เพราะการเติบโตของช่อง 8 ก็เท่ากับว่าเราได้แย่งสายตามาจากฟรีทีวีเดิม เราอยู่ในช่วงที่ต้องสร้างฐานคนดู

จุดแข็งช่อง 8?

จุดแข็งของช่อง 8 ตั้งต้นด้วยละคร เราเปิดตัวมาด้วยความโดดเด่นของละคร มีคาแร็กเตอร์เฉพาะตัว ดูง่าย เข้าถึงง่าย เราสามารถทำละครได้ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้

เรามีจุดแข็งด้วยกัน 3 อย่าง หนึ่งคือละคร ข่าว และกีฬา โดยเฉพาะรายการมวย ถือว่าเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงที่สุดของประเทศ ในปีนี้เราจะเพิ่มวาไรตี้เข้ามา เพื่อให้คอนเทนต์ของช่องมีความหลากหลาย ครบทุกกลุ่มเป้าหมาย และส่วนใหญ่ผลิตเองหมด

ข่าววันนี้เราค่อนข้างอยู่ตัว เราทำได้ในระดับที่พอใจ อย่างเช่น รายการคุยข่าว ถือว่าประสบความสำเร็จ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะพัฒนาต่อไป ส่วนในรายการกีฬา รายการมวย ถือว่าเราทำได้ดีเกินคาดเสียอีก เรตติ้งก็ชนะทุกช่องแล้ว ส่วนเรื่องรายการวาไรตี้ เตรียมเงินไว้สองร้อยล้านบาทสำหรับการทำวาไรตี้ใหม่ๆ ที่จะลงช่อง 8 ในปีนี้

กลยุทธ์การถ่ายทอดสดและเพย์ทีวี?

การถ่ายทอดสดจริงๆ การทำทีวีมันเปิดกว้าง เพียงแต่ว่าทุกอย่างต้องดูว่ามันเหมาะสมหรือไม่ เราก็ดูที่ราคา ถ้าราคาแพงเราก็ไม่ทำ คือสนใจหมด แต่ถ้ามันแพงเราก็ไม่ทำ เป็นสูตรสำเร็จที่ไหนก็เป็นอย่างนี้

สำหรับเพย์ทีวี เมื่อไหร่ฟรีทีวีแข่งขันเสรี เพย์ทีวีก็ลำบาก ทั่วโลกเป็นแบบนั้น มันเป็นทฤษฎีอยู่แล้ว เพราะว่าเมื่อทีวีมันมากช่อง ทีวีในอดีตมีแค่ 4-5 ช่อง วันนี้มียี่สิบกว่าช่อง คอนเทนต์ดีๆ ที่เคยถูกล็อกไว้ที่เพย์ทีวี เริ่มไหลมาที่ฟรีทีวี คนที่เคยเสียเงินดูก็ย้ายมาดูที่ฟรีทีวีหมดแล้ว เพราะไม่เสียเงิน คนที่ทำธุรกิจเพย์ทีวีก็จะค่อยๆ ลดลง ฐานลูกค้าก็จะค่อยๆ ลดลง ตลาดก็จะค่อยๆ เล็กลงเรื่อยๆ

ธุรกิจทีวีดาวเทียม?

ในช่วงปีที่ผ่านมาพอดิจิตอลทีวีแข่งกันมากๆ ช่องแซตเทลไลต์ทีวี (ทีวีดาวเทียม) ได้รับผลกระทบหนักจะเห็นว่าปีที่ผ่านมาก็ปิดตัวกันมาก วันนี้เรากล้าพูดเต็มปากว่ามีแค่อาร์เอสเท่านั้นที่ยังรักษาระดับนิยมได้ อย่างช่อง 2, สบายดีทีวี ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะเอาช่องดาวเทียมทีวียืนหยัดสู้กับช่องดิจิตอล 24 ช่อง ซึ่งสุดท้ายก็ต้องกลับมาที่คอนเทนต์ อย่างช่อง 2 เรามีคอนเทนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของช่อง 2 ช่องสบายดีทีวีก็เช่นกัน เป็นช่องที่มีคอนเทนต์ที่แข็งแรงและคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก็สามารถแข่งกับคู่แข่งที่เป็นดิจิตอลทีวีได้ เพราะมีความชัดเจน

พฤติกรรมการบริโภคสื่อในยุคโซเชียล?

มองว่ามันเป็นโอกาสเสียอีก เพราะเรามีคอนเทนต์ เราเป็นเจ้าของ มันก็เหมือนมีอีกช่องทางหนึ่ง ให้เราเข้าไปหาประโยชน์ในออนไลน์ ส่วนพฤติกรรมที่จะมาแย่งสายตาคนดูจอทีวี เฮียมองต่างกัน เชื่อว่าคนที่ไม่ได้ดูทีวี ยังไงก็ไม่ได้ดูทีวีอยู่แล้ว คนดูก็คือคนดู เพราะฉะนั้นออนไลน์ก็จะมาตอบพวกกลุ่มนี้ เด็กรุ่นใหม่เขาใช้เวลากับทีวีน้อยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันคนละกลุ่มกัน

ประเด็นที่สอง การดูทีวีแบบเครื่อง กับการดูผ่านออนไลน์มันคนละไลฟ์สไตล์ ส่วนใหญ่เขาจะไม่ดูสด แต่จะมาดูทีหลังในเวลาที่เขาสะดวก จึงไม่ได้มองว่าเป็นอุปสรรคหรือปัญหาในการแย่งสายตาคนดู เราเชื่อว่ามันเป็นโอกาสให้กับเจ้าของคอนเทนต์ ให้มีช่องทางใหม่ๆ ให้ไปสร้างรายได้ให้กับคอนเทนต์เรา

ใช้โซเชียลมากขนาดไหน?

ใช้โซเซียลไม่เยอะ ใช้อย่างเดียวคือทวิตเตอร์ คนก็ตามเยอะพอสมควร ชอบคุยกับคนรุ่นใหม่ ผมเชื่อว่าวันนี้เด็กรุ่นใหม่ฉลาดกว่าเรา รู้อะไรเร็วกว่าเรา กว้างกว่าเรา เพียงแต่ว่าเขาวิเคราะห์สู้เราไม่ได้จริงๆ มองไม่ขาดเท่าเราเท่านั้นเอง จึงชอบคุยกับคนรุ่นใหม่ๆ

อย่างลูกชายเฮียคุยกันบ่อยมาก ได้อะไรจากเขาเยอะมาก โดยที่เขาไม่รู้ เขาเล่าให้เราฟังโดยที่เราไม่รู้หรอกว่าจะเอาไปคิดต่อปรับปรุงธุรกิจและองค์กรต่อได้ เขาใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าเรา สังคมออนไลน์มันไม่มีพรมแดน เรื่องบางเรื่องมันเกิดที่อเมริกา ในวันนี้ที่นี่ก็รู้เลย เรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นที่อเมริกาเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เพิ่งมาประสบความสำเร็จวันนี้ เด็กที่นี่ก็รู้เลย เพราะมันไม่มีพรมแดนอีกต่อไป มันสามารถเป็น Case study เพียงแต่เราจะเอามาคิดต่อหรือเปล่าเท่านั้นเอง

1_1500x2250

4จี ที่กำลังเข้ามา มองว่าจะมีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคไหม?

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็น 4จี เรื่องของอินเตอร์เน็ต อะไรต่างๆ มันคือถนนเดียวกัน ถนนมันใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้น เราคือเจ้าของคอนเทนต์ วันนี้การที่มี 4จี ในอนาคตจะมี 5จี ยิ่งมีมากเท่าไหร่ในมุมเราคือดี เพราะเหมือนว่ามีถนนให้เราวิ่งมากขึ้น เพราะถ้าอาร์เอสเราเป็นเจ้าของคอนเทนต์ที่มีคุณภาพหลากหลาย การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ถือเป็นช่องทางที่ดีต่อเรามากขึ้นเท่านั้น เพราะเชื่อว่าเรามีรถที่มีคุณภาพอยู่แล้ว

เม็ดเงินโฆษณา?

ในสภาวะที่เศรษฐกิจยังค่อยๆ ฟื้นตัว ปี 2559 เม็ดเงินโฆษณายังไม่ได้กลับมาเหมือนเดิมทีเดียว กลยุทธ์ในการขายก็สำคัญ โดยเฉพาะช่อง 8 ช่อง 2 และสบายดีทีวี ก็ยังเป็นทางเลือกแรกๆ เมื่อลูกค้าจัดแพลนของโฆษณา เราเป็นทางเลือกแรกๆ ของเขาแล้ว เราก็ต้องมีกลยุทธ์ในการขายเข้ามาเป็นตัวผลักดันให้เกิดเป็นความมั่นคงในระยะยาว อย่างช่อง 8 เราใช้กลยุทธ์การขายแบบเหมาปี เราตั้งเป้าไว้สองพันล้าน เราวางเป้าจะขาย 60% อีก 40% เป็นการขายระหว่างปี

เมื่อเรตติ้งขึ้นก็เพิ่มราคาไป เพราะฉะนั้น การทำแบบนี้ในมุมของเราเองเราก็ได้ความมั่นคง มั่นใจระดับหนึ่ง ได้โฆษณามาล็อกไว้แล้ว ในมุมของลูกค้าเองก็สามารถซื้อในราคาที่ฟิกไว้แล้วทั้งปี แล้วระหว่างปีหากเรตติ้งช่อง 8 ขึ้น เมื่อเราขึ้นราคาลูกค้าก็ได้ราคาพิเศษไปแล้ว เพราะฉะนั้นกลยุทธ์แบบนี้เราก็เอามาใช้ ก็ตอบโจทย์ลูกค้าได้ ทำให้ช่อง 8 ล็อกตัวเลขการขายได้แล้ว 50%

ถามเรื่องธุรกิจเพลงบ้าง?

ธุรกิจเพลงของอาร์เอสถือว่าไปได้ดี แต่ก็ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เราพูดได้เต็มปากว่าธุรกิจเพลงเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่มากที่สุด ฉะนั้น ธุรกิจเพลงถือว่าเป็นธุรกิจที่เผชิญความท้าทายมาทุกปี อาร์เอสก็ปรับตัวตลอดเวลา หากถามว่าปีนี้ดีไหม ปีนี้เราวางแผนไว้ค่อนข้างรัดกุม เพราะเชื่อว่าเป็นอีก 1 ปี ที่ธุรกิจเพลงของอาร์เอสยังไปได้ดีอยู่ แต่ก็ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ไปเรื่อยๆ

ต้องบอกว่าด้วยโมเดลธุรกิจเพลงมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว วันนี้เราไม่ต้องพูดถึงซีดี เพราะคนไม่ได้ฟังแผ่น เราไม่ได้ฟังเพลงผ่านซีดีอีกต่อไปแล้ว เรื่องดาวน์โหลดก็ลดลงเรื่อยๆ รายได้ส่วนใหญ่คือเราเติบโตไปทางยูทูบ เราก็ต้องปรับโมเดลการสร้างเพลง สร้างศิลปิน ให้มันสอดคล้องกับช่องทางรายได้ใหม่ๆ ถ้าเรายังสร้างเพลงเพื่อขายแผ่นเฮียว่ามันก็ผิดแล้ว คือการปรับตัวปรับให้มันสอดคล้องกับพฤติกรรมการเสพของคนฟังคนดู ซึ่งมันค่อนข้างเปลี่ยนแปลงเร็ว เราก็ต้องปรับตัวเร็ว

การปรับตัวต้องเกี่ยวข้องในทุกๆ ส่วนทั้งตัวศิลปินเอง คนทำงานต่างๆ เพราะมันต้องเปลี่ยนวิธีคิดหมดเลย การออกศิลปินเยอะมันไม่ได้มีเหตุผลสำคัญอีกต่อไปแล้ว มันเน้นที่ว่าออกมาแล้วมีคนดูเยอะๆ ถึงจะประสบผลสำเร็จ รวมถึงคอนเสิร์ตและโชว์ต่างๆ ก็อยู่ในส่วนของธุรกิจเพลงนี้

ความเปลี่ยนแปลงมาเร็ว ต้องปรับตัว สื่อสารการทำงานกับลูกน้องอย่างไร?

วิธี คือ พนักงานมีคอมพิวเตอร์ซึ่งใช้ทำงานอยู่แล้ว ทีนี้พอเปิดจอมาก็จะเจอผม ว่าแต่ละเดือนเฮียจะพูดอะไร ในปีที่ผ่านจะเน้นในเรื่องของการให้ข้อคิด วิธีคิดในการดำเนินชีวิต วิธีคิดในการทำงาน

แต่ในปีนี้จะเลือกพูดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งในเดือนนั้นๆ กับพนักงาน จะพูดเรื่องวิธีทำงาน บางทีก็จะพูดเรื่องอาร์เอส หรือบางทีพูดเรื่องที่เรากำลังจะทำอะไร เพราะว่าเรื่องแต่ละเรื่อง บางทีพนักงานในอาร์เอสอาจจะยังไม่รู้ หรือรู้ไม่เท่า เราก็จะเป็นคนไปบอกให้รู้ว่ากำลังเป็นไปยังไง ปี 2559 เราจะใช้คำว่า “เฮีย Talk”

บางทีมันก็จะได้ข้อคิด กำลังใจ บางทีก็เป็นความรู้ เหมือนกับเราเรียนหนังสือ ในห้องเรียนมีสิบคนก็จะพูดให้หมด เด็กสิบคนนั้นจะต้องอยากรู้เอง บางคนเข้าหูซ้ายออกหูขวา บางคนอ่านแล้วไปคิดต่อ บางคนอ่านแล้วก็จบ มันก็เหมือนคนอ่านหนังสือหนึ่งเล่ม สองคนอ่านหนังสือเล่มเดียวกันได้ไม่เท่ากัน สุดท้ายแล้วก็สุดแท้แต่พนักงาน

เป้าหมายของอาร์เอสในปี 2559?

ปีนี้เป็นปีที่ 3 ของการสร้างช่อง 8 ในปี 2559 ก็คงเดินตามแผนเดิม เพราะปีที่ 1 และปีที่ 2 ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่ากลยุทธ์และแผนการสร้างเรตติ้งของช่อง 8 มาถูกทาง เพราะสามารถเติบโตได้ 100% ตามเป้าหมาย ตั้งเป้าเรตติ้งไว้ที่สิ้นปีเราอยากจะจบที่ประมาณ 700,000 คนต่อนาที ในการแย่งสายตาผู้ชม ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย (ยิ้ม)

ต้องบอกว่า การออกมาประกาศลงทุนเพิ่มอีก 2 พันล้าน ในปีนี้ ไม่ได้ใช้เฉพาะช่อง 8 เพียงอย่างเดียว แต่ใช้งบประมาณกับทุกช่อง เพียงแต่ว่าน้ำหนักอยู่ที่ช่อง 8 เกือบพันล้านบาท หนักไปที่เรื่องของการทำละคร เพราะปีนี้เราทำละครเกือบ 30 เรื่อง

ในส่วนของมีเดียที่เหลือ อย่างช่อง 2 ถือว่าเป็นช่องทีวีในอันดับต้นอยู่แล้ว ช่องสบายดี คือช่องเพลงอันดับหนึ่งของประเทศ ช่องยูแชนแนลก็เป็นช่องเพลงวัยรุ่นซึ่งมีฐานที่แน่นเหนียว

เราจะพยายามรักษาระดับที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว

อ่านแบบ’เฮียฮ้อ’
และไลฟ์สไตล์ในวันหยุด

“ชอบอ่านหนังสือทุกอย่าง แต่เดี๋ยวนี้อ่านน้อยแล้ว”

พลันที่ชวน เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ คุยเรื่อง

ไลฟ์สไตล์ ข้างต้นคือคำตอบที่ได้รับจากเบอร์หนึ่งของ “อาร์เอส” เมื่อถามเรื่องการอ่านหนังสือ

ชวนให้สงสัยต่อว่า เหตุใดวันนี้เฮียถึงอ่านหนังสือน้อยลง

“เพราะหนังสือมันช้ากว่า เฮียมีวิธีเข้าถึงความรู้ได้มากกว่าหนังสือ หนังสืออ่านน้อยมา 5-6 ปีแล้ว เมื่อก่อนจะเป็นหนอนหนังสือเลย อ่านประจำวัน แต่วันนี้จะอยู่กับออนไลน์เยอะ อ่านผ่านออนไลน์ เดี๋ยวนี้หนังสือมันช้าแล้วกว่าคุณจะได้เรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้น เรามีช่องทางการเข้าหาความรู้ได้ง่ายกว่า เร็วกว่า ก็ไม่ต้องรอหนังสือ ก็เลยทำให้อ่านหนังสือน้อยลงไปโดยปริยาย แต่ก็ยังอ่าน เพราะจริงๆ ต้องบอกว่าวัตถุประสงค์ของการอ่านหนังสือคืออะไร คือเราต้องการความรู้ เราอ่านเพราะไม่ใช่เราอยากอ่าน แต่อ่านเพราะต้องการความรู้ เพราะฉะนั้น วันนี้ถ้าเรามีความรู้ได้โดยที่ไม่ต้องอ่าน การอ่านมันก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป”

ฉะนั้น การสอนเด็กรุ่นใหม่ให้อ่านหนังสือเยอะๆ จะได้ฉลาดๆ จึงไม่ใช่แล้ว

“ถ้าพูดแบบนั้นคือคนตกยุคแล้ว การอ่านหนังสือเยอะๆ จะโง่ คุณจะฉลาดช้า เพราะหนังสือมันช้า การอ่านมันเป็นแค่เครื่องมือเข้าถึงความรู้ ตอนนี้มันมีวิธีที่เข้าถึงความรู้โดยไม่ต้องอ่าน แค่เปิดหูก็ได้มากว่าอ่านล่ะ เข้าเน็ตบางทีไปตามอ่านเรื่องในเน็ตก็ได้ความรู้แล้ว” เฮียฮ้อย้ำหนักแน่น

ถามเรื่องวันหยุดของเขา ส่วนใหญ่ทำอะไร?

“อยู่บ้านพักตากอากาศที่เขาใหญ่ ช่วงนี้ก็เลี้ยงสุนัข มีความสุขกับการเลี้ยงสุนัขแค่นั้นเองแก้เครียด พันธุ์เฟรนช์ บลูด็อก เพิ่งซื้อมาเลี้ยง ลูกแนะนำให้ซื้อพันธุ์นี้

“เฮียจะเลือกที่มันเหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา ไม่ค่อยได้ท่องเที่ยว พบปะคนก็ไม่ค่อยเพราะส่วนใหญ่อยู่ที่ออฟฟิศ เจอทีมงาน พนักงาน เจอลูกน้อง นอกเวลางานจะอยู่บ้าน ไม่ค่อยออกสังคม จะไม่ค่อยเห็นเฮียข้างนอก ไม่จำเป็นไม่ไปเลย ต้องจำเป็นมากๆ ถึงจะออก เบื่อรถติด

“เลิกงานแล้วก็อยากจะพัก เล่นอินเตอร์เน็ตบ้าง ดูทีวีบ้าง กีฬาเมื่อก่อนเล่นกอล์ฟ ตอนนี้หยุดไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้เล่นฟิตเนส วิ่งทุกวัน ถ้าอยู่บ้านจะวิ่งสายพาน ถ้าอยู่เขาใหญ่จะวิ่งในสนาม”

The post ฝ่ากระแสและมรสุม’ทีวีดิจิตอล’ เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ‘คอนเทนต์ คือ หัวใจสำคัญ’ appeared first on มติชนออนไลน์.


Viewing all articles
Browse latest Browse all 6405

Trending Articles


ทำความรู้จัก ค่ายต้นสังกัดดาราจีน...


Samsung tab s9 fe ต่อสาย HDMI ได้ไหม


ใช้บัตร M Pass ถ้าจะนั่งที่นั่ง Honeymoon,Opera Chair...


ดูคลิป เจ๊โอ๋ เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ ขวัญใจสาวโซเชียล สายหื่นไม่ควรพลาด


“โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคเพมฟิกอยด์” อาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและดูแลรักษา


การตั้งค่า Font ของ Microsoft Outlook


(รับทั่วประเทศ)กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับวุฒิป.ตรีทุกสาขา 200 อัตรา...


ใส่สีพื้นหลังของเซลล์ Excel เปลี่ยนความจำเจของสีพื้นหลัง


การเขียนแม่ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ 3D ด้วย Artcam (ตอนที่ 1)


แจก Brush ฟรี!! สไตล์วาดการ์ตูนมังงะสำหรับใช้ในแอป Procreate