Quantcast
Channel: ประชาชื่น –มติชนออนไลน์
Viewing all articles
Browse latest Browse all 6405

หมุนตามโลกให้ทัน

$
0
0

ผมมีความรู้สึกว่ามหา”ลัยของรัฐจำเป็นต้องปรับตัว จะมัวแต่ภูมิใจกับคณะพระเอก นางเอกที่ใครๆอยากเข้ามาเรียนเหมือนอย่างเมื่อก่อนไม่ได้อีกแล้ว

เพราะเรื่องการศึกษาท้ายที่สุดก็ไม่พ้นเรื่องการแข่งขัน

ซึ่งมีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผมเคยคุยกับนักวิชาการบางคนบอกว่าตอนนี้มหา”ลัยของรัฐบางแห่งกำลังกินบุญเก่า โดยเฉพาะมหา”ลัยท็อปทรีทั้งหลาย เพราะเขาเชื่อว่าแบรนด์ของเขาแข็งแรง

แบรนด์ของเขาเป็นแบรนด์หรู

ที่เมื่อนักเรียนสอบเข้าได้จะรู้สึกภูมิใจทั้งแก่ตัวเอง และวงศ์ตระกูล ซึ่งผ่านมาในอดีตจนถึงปัจจุบันผมก็ยังเชื่อว่าความคิดเหล่านี้ยังดำรงอยู่คงอยู่

แต่อนาคตผมไม่แน่ใจ

เพราะอย่าลืมว่ามหา”ลัยของรัฐแต่ละแห่งมีคณะพระเอก นางเอกที่คนอยากเรียนจริงๆ เพียงไม่กี่คณะ ที่เหลือเรียนเพื่อให้ได้ชื่อว่าฉันอยู่มหา”ลัยนี้

ฉันสอบเข้าได้แล้วนะ

แต่เมื่อเรียนจบแล้วจะนำความรู้อะไรไปทำมาหากินยังไม่รู้เลย ซึ่งผมคิดว่านิสิต นักศึกษาหลายคนยังอยู่ในวังวนเช่นนี้

และน่าจะอยู่ไปอีกเรื่อยๆ

เพราะระบบการศึกษาของบ้านเราสอนแต่ในตำรา ไม่ได้สอนเรื่องการใช้ชีวิต และการคิดแบบรวบยอด ท้ายที่สุด เมื่อเขาเติบโตขึ้นจึงมองมุมที่แตกต่างไม่เป็น

เรื่องนี้เป็นปัญหาหนึ่งเมื่อเขาเข้าไปอยู่ในโลกแห่งการทำงาน

สิ่งสำคัญอีกอย่าง หลายคนยังเชื่อว่าค่าหน่วยกิตของมหา”ลัยของรัฐถูกกว่ามหา”ลัยเอกชน ซึ่งภาพรวมอาจถูกกว่าจริงๆ แต่บางคณะไม่ได้ถูกเลย บางทีอาจแพงกว่ามหา”ลัยเอกชนด้วยซ้ำ

เพราะเขานอกระบบไปแล้ว

เขามีสิทธิในการบริหารจัดการคณะของตัวเอง โดยเฉพาะกับคณะพระเอก นางเอกอย่างที่คนอยากเรียนมากที่สุด แต่ต้องมาติดปัญหาที่ว่าค่าเทอมแพง

ไม่มีปัญญาเรียน

พ่อแม่ส่งไม่ไหว

ท้ายที่สุดจึงต้องกู้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

ผลตรงนี้ จึงทำให้นักเรียนหลายคนเลือกเรียนมหา”ลัยเปิดอย่างรามคำแหง กับสุโขทัย แต่ก็อย่างที่บอกบางทีก็ไม่มีคณะที่เขาอยากเรียนจริงๆ

ท้ายที่สุดจึงเรียนๆไปเพื่อให้ขึ้นชื่อว่าจบปริญญาตรีแล้ว

ช่องว่างตรงนี้เองที่ทำให้มหา”ลัยเอกชนเลือกเปิดคณะที่นักเรียนสนใจ และคิดว่าน่าจะเป็นคณะที่คนอยากเรียนมากที่สุด เพราะเขารู้ว่าเมื่อเรียนไปแล้วจะไปต่อยอดอะไรได้อีก

โดยเฉพาะกับครอบครัวที่ทำธุรกิจ

มีการค้าเป็นของตัวเอง

หรือมีเป้าหมายในอนาคตที่จะไปเรียนหนังสือต่อเมืองนอก เพราะระบบการศึกษาของมหา”ลัยเอกชนบางแห่งสอนเพื่อสร้างคนไปทำงานด้านนั้นๆ

สอนเพื่อผลิตคนเข้าสู่สายงานเฉพาะ

ยิ่งโลกในปัจจุบันขับเคลื่อนกันอย่างไร้พรมแดนด้วย ภาษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ มหา”ลัยเอกชนบางแห่งจึงจัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติขึ้นมา

เพราะเขามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ

เพื่อรองรับลูกหลานคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย หรือเพื่อรองรับลูกหลานของนักธุรกิจอาเซียนที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในเมืองไทย

เพราะเชื่อว่าการศึกษาของบ้านเรามีความเป็นเลิศ ถูกกว่าสิงคโปร์ สำคัญไปกว่านั้น เขาต้องการให้ลูกหลานของเขามีคอนเน็กชั่นในเมืองไทย พูดภาษาไทยได้ เพราะเขามีธุรกิจที่ทำอยู่ในเมืองไทย

เสมือนเป็นการต่อยอดธุรกิจไปในตัว

ซึ่งมุมมองเชิงธุรกิจของมหา”ลัยเอกชนที่ไม่หยุดอยู่เฉพาะแค่ตลาดในประเทศนี่เอง จึงทำให้ผู้บริหารของมหา”ลัยเอกชนเริ่มหันไปตลาดในต่างประเทศ

โดยเฉพาะกับตลาดอาเซียน

เพราะหลังจากเปิดประชาคมอาเซียนเมื่อปลายปี”58 ผ่านมา เขามีความเชื่อว่านักเรียน นิสิต นักศึกษาของประเทศเหล่านี้สนใจเรียนสาขาต่างๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะสาขาการบริหารจัดการการท่องเที่ยว โรงแรม และรีสอร์ต

บริหารธุรกิจและอื่นๆ

ผู้บริหารของมหา”ลัยเอกชนบางแห่งจึงแต่งตั้งผู้แทนของมหา”ลัยเข้าไปเป็นเอเยนต์เพื่อเปิดตลาดในประเทศเหล่านี้ บางแห่งเปิดสำนักงานสาขา

บางแห่งใช้ความร่วมมือกับสภาหอการค้ากับประเทศต่างๆ จัดทำโครงการเอ็มบีเอเพื่อสอนให้กับนักธุรกิจของประเทศนั้นๆ ขณะเดียวกัน ยังมีแผนเปิดหลักสูตรปริญญาตรี และโทที่ประเทศเหล่านั้นด้วย

เพราะเขามองเห็นปัญหาอย่างหนึ่งที่เกิดจากตลาดในประเทศเริ่มอิ่มตัว เนื่องจากประชากรในแต่ละครอบครัวมีจำนวนน้อยลง เฉลี่ยครอบครัวหนึ่งมีลูกเพียงหนึ่งถึงสองคนเท่านั้น

ดังนั้น หากเขาไม่ไปเปิดตลาดในต่างประเทศเสียแต่วันนี้ จะเสียโอกาสทางธุรกิจได้ ซึ่งผมลองค้นตัวเลขเล่นๆ จากข่าวที่ลงเกี่ยวกับอัตราค่าเล่าเรียนของนักศึกษาต่างชาติที่จะมาเรียนในเมืองไทย และประเทศของเขาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 90,000-175,000 บาทต่อปี

แต่เมื่อดูตัวเลขรวมของตลาดนักศึกษาต่างชาติกลับพบว่ามีสูงถึงเกือบสี่หมื่นล้านบาทที่หลายมหา”ลัยเอกชนกำลังจ้องหยิบชิ้นปลามันกัน

ผมไม่รู้ว่าผู้บริหารมหา”ลัยของรัฐคิดอย่างไรกับการที่มหา”ลัยเอกชนปรับโมดูลธุรกิจเช่นนี้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เราเห็นความจริงอย่างหนึ่งว่า?เขาพยายามออกไปจับปลาที่อื่น เพราะปลาในบ้านเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว

จะมามัวแย่งกันอยู่ทำไม

ทำไมไม่ปรับปรุงหลักสูตร สร้างคณะต่างๆ ให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อให้สอดรับกับตลาดงานโดยรวม เพราะถ้าขืนภูมิใจกับคณะพระเอก นางเอกเพียงไม่กี่คณะ

แล้วต่อไปเราจะผลิตคนคุณภาพออกมาได้อย่างไร

เพราะโลกตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงกันทุกวินาที

เราจึงต้องหมุนตามโลกให้ทัน ?

The post หมุนตามโลกให้ทัน appeared first on มติชนออนไลน์.


Viewing all articles
Browse latest Browse all 6405

Trending Articles


ทำความรู้จัก ค่ายต้นสังกัดดาราจีน...


Samsung tab s9 fe ต่อสาย HDMI ได้ไหม


ใช้บัตร M Pass ถ้าจะนั่งที่นั่ง Honeymoon,Opera Chair...


ดูคลิป เจ๊โอ๋ เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่ ขวัญใจสาวโซเชียล สายหื่นไม่ควรพลาด


“โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคเพมฟิกอยด์” อาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและดูแลรักษา


การตั้งค่า Font ของ Microsoft Outlook


(รับทั่วประเทศ)กรมการพัฒนาชุมชน เปิดรับวุฒิป.ตรีทุกสาขา 200 อัตรา...


ใส่สีพื้นหลังของเซลล์ Excel เปลี่ยนความจำเจของสีพื้นหลัง


การเขียนแม่ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ 3D ด้วย Artcam (ตอนที่ 1)


แจก Brush ฟรี!! สไตล์วาดการ์ตูนมังงะสำหรับใช้ในแอป Procreate